กลยุทธ์มนุษย์เงินเดือน ฉบับสามก๊ก 4

กลยุทธ์มนุษย์เงินเดือน ฉบับสามก๊ก
ตอน  ยอดคนตามหานายดี


บางท่านคิดว่า ผมเสนอแต่พวกสายบุ๋น ไม่เห็นกล่าวถึงพวกสายบู้ ดูบ้างเลย
ขอลองยกตัวอย่าง จูล่ง คนดีมีความสามารถ ต้องเปลี่ยนนายใหม่ จึงจะรุ่ง
เดิมที่เริ่มงานกับอ้วนเสี้ยว แต่ดูแล้วเป็นคนหยาบช้ามิได้รักษาสัตย์ 
จึงสมัครไปอยู่กับกองซุนจ้าน สู้อุตสาห์สร้างผลงานให้ปรากฏ ต่อกรกับบุนทิว
ยอดทหารเอกของอ้วนเสี้ยว ได้อย่างสูสี แต่กับไม่ไว้ใจ มีตาหามีแววไม่
ก็ไม่รู้ว่าทำไม กองซุนจ้านจึงไม่ใจในตัวจูล่ง ถ้าจะเห็นว่าเป็นคนแปลกหน้า ไม่น่าไว้ใจ ก็ไม่น่าใช่
ถ้าตอนนั้น จูล่งไม่ยื่นทวน เข้าไปช่วย ซอกคอกองซุนจ้าน ก็คงไม่พ้นปลายทวนบุนทิวอย่างแน่นอน

ในสามก๊กฉบับ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ท่านบรรยายไว้ดังนี้
แลทหารเอกกองซุนจ้าน ๔ คนขับม้าประดากันเข้ารบด้วยบุนทิวๆ
เอาทวนแทงถูกทหารตกม้าตายคนหนึ่ง ทหาร ๓ คนก็ขับม้าหนี




บุนทิวเงื้อทวนจะแทงกองซุนจ้าน ฝ่ายจูล่งเห็นดังนั้นก็ขับม้ารำทวนออกสกัดหน้าบุนทิวไว้
แลกองซุนจ้านนั้นก็หนีเข้าซ่อนอยู่ในเงื้อมเขาได้ 
จูล่งกับบุนทิว รบกันถึง สิบหกเพลงมิได้แพ้ชนะกัน
พอเหล่าทหารกองซุนจ้านซึ่งแตกนั้นคุมกันไล่ตามทัน เข้าล้อมบุนทิวไว้
บุนทิวเห็นจะเสียทีก็ขับม้าฝ่าออกมาได้ แล้วหนีไป
กองซุนจ้านจึงออกมาจากเงื้อมเขา เห็นทหารคนนั้นสูงประมาณประมาณ ๖ ศอก
หน้าผากแลคิ้วใหญ่ตาโต จึงถามว่าท่านชื่อใด มาช่วยเรานี้ขอบใจนัก
จูล่งย่อตัวคำนับแล้วว่า ข้าพเจ้าชื่อจูล่งแซ่เตียว อยู่ณเมื่องเสียงสัน
แต่ก่อนนั้นข้าพเจ้าอยู่ด้วยกับอ้วนเสี้ยว ข้าพเจ้าเห็นว่าอ้วนเสี้ยวเป็นคนพยศหยาบช้ามิได้รักษาสัตย์
ข้าพเจ้าจึงหนีมาพึ่งอยู่ด้วยท่าน พอมาพบที่กลางทางนี้
กองซุนจ้านได้ฟังดังนั้นมีความยินดีนัก จึงขึ้นขี่ม้าตัวหนึ่งแล้วพาจูล่งกับทหารทั้งปวงยกกลับไป ณ ค่ายริมแม่น้ำ

ที่ผมต้องกล่าวเสียยืดยาว อยากให้เห็นสาระสำคัญตอนนี้
นักรบสมัยก่อน ถ้าเก่ง ก็คือเก่งจริงๆ ดูอย่างบุนทิว คนเดียว ทหารเอก กองซุนจ้าน ๔ คนเทียบไม่ติด
จูล่งตอนนั้น เป็นทหารโนเนมอยู่ สามารถต่อกรกับ ทหารเอกมีชื่อแห่งยุค บุนทิว ได้อย่างสูสี
เปิดตัวได้งดงาม มาแบบวีรบุรุษ ปกป้องชีวิตคนที่จะเป็นเจ้านายในอนาคต แต่กลับไม่คิดทวงบุญคุญ เรียกร้องค่าตอบแทนเลยสักนิด เพียงแต่ตอบว่า " จึงหนีมาพึ่งอยู่ด้วยท่าน"
ช่างตอบได้นอบน้อมถ่อมตัวเสียนี่กระไร ความสามารถระดับนี้ไม่ต้องหนีหรอกครับ มีแต่คนโหยหา
พอกองซุนจ้านตาย อ้วนเสี้ยว ส่งคนไปตามง้อกลับ แต่จูล่งไม่เอาด้วย
ตอนนั้นอ้วนเสี้ยว เป็นก๊กใหญ่สุด จูล่งกลับเข้าไปอย่างน้อย ก็ได้เป็นทหารเอกคนหนึ่ง
แต่จูล่งมองการณ์ไกล อยู่ไปก็รุ่งไม่นาน ด้วยอ้วนเสี้ยวเป็นคนโลเล ทำการใหญ่ไม่สำเร็จ

กองซุนจ้าน ก็มีตาหามีแววไม่ เหมือนไก่ได้พลอย ลิงได้แหวน หารู้คุณค่าไม่
แลกองซุนจ้านนั้นยังไม่รู้จักน้ำใจจูล่ง จึงให้จูล่งคุมทหารเป็นกองหลัง
ก็ไม่รู้ว่าทำไม กองซุนจ้าน จึงไม่ไว้ใจจูล่ง ถ้าจูล่งคิดไม่ซื่อ ก็ปล่อยให้บุนทิวเอาทวนแทงตายเสียที่เนินเขาเรื่องก็จบ อ้วนเสี้ยวจะส่งจูล่งมาเป็นไส้ศึกให้เสียเวลาทำไม
หรือเป็นเพราะจูล่ง บอกว่าเคยอยู่กับอ้วนเสี้ยว กองซุนจ้านจึงไม่ไว้ใจ

ความสามารถจูล่งนั้น ต้องให้เป็นกองหน้าประจัญบาน ไม่ใช่กองหลัง
ใช่คนอย่าระแวง ถ้าระแวงแล้วอย่าใช่
คนที่จะเป็นเจ้านายทั้งหลาย พึ่งวิเคราะห์ นิสัยและความสามารถลูกน้องตัวเองให้ดี
อย่าให้เหมือนกองซุนจ้าน ที่มีคนดี มีความสามารถ แต่อนาถไม่รู้จักใช้

จูล่ง เองก็เริ่มรู้ตัวว่าเลือกนายผิดเข้าให้แล้ว พอได้มาเจอเล่าปี่ ใช่เลย
เจ้านายในอุดมคติ คือคนนี้แน่นอน จึงเผยความรู้สึกในใจให้เล่าปี่ฟัง
" แต่ก่อนข้าพเจ้าเห็นว่าอ้วนเสี้ยวเป็นหยาบช้า
ข้าพเจ้าจึงมาอยู่ด้วยกองซุนจ้าน
บัดนี้ก็เห็นว่ากองซุนจ้านนี้หาความคิดมิได้
ข้าพเจ้ามีความลำบากใจ ครั้นมาเห็นท่านค่อยมีสติปัญญา
คิดว่าจะทำราชการด้วยก็ต่างคนต่างอยู่ มิรู้ที่จะทำประการใด"

เล่าปี่ก็ตอบ รู้จักกันไว้เป็นคนสนิท จงอยู่กับกองซุนจ้านก่อนเถิด
แม้ไม่ตาย ก็คงได้ร่วมงาน
แล้วภายหลังโชคชะตาฟ้าลิขิต ให้จูล่งเจอกับเล่าปี่ยามยากกันอีกครั้ง
คราวนี้ จูล่งร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ สร้างผลงานลือลั่น
ฝ่าทัพรับอาเต๊า สังหารแม่ทัพใหญ่ ๒ คน ทหารเอก ๕๐ คนของโจโฉ ในการรบครั้งเดียว
ย้ำครั้งเดียว และคนเดียว ด้วยม้า ๑ ตัว ทวน ๑ เล่ม ยอดกระบี่ ๑ เล่มของโจโฉ พร้อมทารกน้อยเล่าเสี้ยน เป็นตัวถ่วงอีกต่างหาก ( กระบี่โจโฉคืนสนอง สังหารทหารเอกของตัวเอก) สมกับเป็นยอดขุนพลประจัญบาน

ที่ผมว่าดีแล้วที่โชคชะตา ลิขิตมาให้รู้จักเล่าปี่ที่หลัง
ถ้าได้มารู้จักพร้อมกับ กวนอู เตียวหุย แล้วสาบานกันพี่น้อง
เห็นจูล่ง คงต้องตายด้วยแรงคำสาบานไปอีกคน
( แม้ไม่ได้เกิดวันเดียวกัน แต่ขอตายพร้อมกัน )
จูล่งจึงอยู่ค้ำบัลลังเล่าเสี้ยนไปอีกนาน 

เล่าปี่นับถือจูล่ง เรียกว่าน้อง๔ แม้มิได้สาบานเป็นพี่น้อง
เล่าเสี้ยน เรียกท่านอาจูล่ง
บุคคลผู้นี้งดงาม สมกับเป็นวีรบุรุษ
สมแล้วที่พระราชวังต้องห้าม วาดวีระกรรมจูล่งไว้ติดฝาผนัง

การกระทำของจูล่ง สอนอะไรกับเราเหล่ามนุษย์เงินเดือน
อยู่กับอ้วนเสี้ยว เป็นแค่ทหารธรรมดา ไม่มีชื่อเสียงอะไร
อยู่กับกองซุนจ้าน ได้เป็นแม่ทัพกองหลัง ยังใช้ความสามารถได้ไม่เต็มที
อยู่กับเล่าปี่ ได้เป็นทหารเสือ ได้รับความยกย่องนับถือ จากเจ้านาย เต็มที
สมที่จูล่งรอคอย ตามหา เจ้านายแบบนี้ แม้ช่วงหนึ่ง ตอนที่กองซุนจ้านตาย ต้องเร่ร่อนสักพัก
ก็จะกลัวไปไย ความสามาถอยู่กับตัวกลัวอะไร

แล้วคุณละ มีความสามารถ และกล้าพอที่จะตามหาเจ้านายในอุดมคติอย่างจูล่งหรือเปล่า


โดย อาจารย์ วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)

ไม่มีความคิดเห็น: